วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ล้วงลึกขนาดของท่อประปาระบบสุขาภิบาลในบ้านและอาคาร

     โดยหลักการทั่วไปแล้วไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย โรงงาน อาคารทั่วไปย่อมต้องมีห้องน้ำหรือห้องสุขา หรือระบบระบายน้ำเสีย และระบบบำบัดน้ำเสียก่อนนำน้ำจากการบำบัดไปใช้ในโครงการอื่นๆ หรือปล่อยลงสู่รางระบายน้ำสาธารณะต่อไป เรื่องที่จะกล่าวถึงวันนี้ก็คือขนาดเบื้องต้นของท่อระบบประปา ระบบสุขาภิบาล ซึ่งวัสดุของท่อที่นิยมใช้อันดับต้นๆ คือท่อพีวีซี (PVC.) ท่อเหล็กเคลือบสังกะสี  ท่อพีบี( PB ) ท่อพีอี (PE) ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันออกไป แต่ที่นิยมใช้มากเลยก็คือท่อพีวีซีเนื่องจากหาง่าย เดินระบบก็ง่ายเนื่องจากใช้กาวในการประสานข้อต่อข้องอ ราคาไม่สูงมากนัก เดินไปซอยไหนก็มีขายว่ากันอย่างนั้นเลย


     ภาพการเดินระบบประปา สุขาภิบาล ระบบบำบัดน้ำเสีย

   ภาพการเดินระบบประปา สุขาภิบาล ระบบบำบัดน้ำเสีย


     สำหรับท่อนอกจากจะมีความยาวเส้นหนึ่ง 4.00 เมตร แล้ว ยังมีข้องอ 45 องศา ใช้ในกรณีท่อระบายน้ำเสียทำให้มีการไหลของน้ำที่ดี ข้องอ 90 องศา สำหรับใช้ในก
ารเดินระบบของน้ำดีเนื่องจากน้ำดีมีแรงดันในการส่งน้ำอยู่แล้วไม่ว่าจากถังเก็บน้ำการประปา หรือจากเครื่องปั๊มน้ำ นอกจากนี้ยังมีข้อต่อสามทางทีวาย TY ข้อต่อสี่ทาง ต่อตรงเกลียวใน ต่อตรงเกลียวนอก ซึ่งสามารขอแคตาลอกจากร้านค้ามาดูว่าในท้องตลาดมีการผลิตอุปกรณ์ขนาดไหนบ้างจะได้ไม่ผิดพลาดในการสั่งวัสดุ
     สำหรับขนาดเบื้องต้นของท่อระบบประปาหรือน้ำดีนั้นเมื่อเดินระบบจากมิเตอร์หรือถังน้ำจะเดินระบบด้วยท่อขนาด 1 นิ้ว เมื่อผ่านเข้ามาในอาคารแล้วจะลดขนาดเป็น 3/4 นิ้ว (6 หุน) และเมื่อต่อเข้าก็อกน้ำหรือสุขภัณฑ์จะลดขนาดเป็น 1/2 นิ้ว (4 หุน) ซึ่งการลดขนาดท่อนี้นอกจากจะประหยัดแล้วยังเพิ่มแรงดันน้ำให้แรงมากยิ่งขึ้นไปอีก
     สำหรับระบบบำบัดหรือน้ำเสียนั้นเมื่อออกจากอ่างล้างหน้า หรือท่อน้ำทิ้งพื้นห้องนั้นใช้ขนาดท่อ 2 นิ้ว เมื่อหลายจุดรวมกันจะเพิ่มขนาดท่อเป็น 3 นิ้ว และถ่ายเข้าสู่เมนกลางขนาด 4 นิ้ว (อย่าลืมท่ออากาศขนาด 1.5 นิ้วเพื่อการระบายที่สะดวกมากยิ่งขึ้น) แล้วจึงถ่ายลงถังบำบัดน้ำเสียก่อนที่จะปล่อยลงสู่รางระบายน้ำสาธารณะ


     สำหรับท่อโสโครกนั้นจะใช้ท่อขนาด 4 นิ้ว ออกจากโถสุขภัณฑ์ หลังจากนั้นเข้าสู่ท่อเมนขนาด 4 นิ้ว(นิยมขนาด 4 นิ้ว) หรือขนาด 6 นิ้ว หรือ 8 นิ้ว แล้วแต่ว่าอาคารนั้นมีบุคคลอยู่อาศัย หรือทำกิจกรรมมากเพียงใด หลังจากนั้นจะใหลลงระบบถังเกรอะ ระบบถังกลอง และลงสู่ระบบถังบำบัดเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ หรือระบายสู่รางระบายน้ำสาธารณะต่อไป หวังว่าข้อมูลนี้จะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ควบคุมงาน วิศวกร นักศึกษา ท่านผู้สนใจ ขอบคุณมากครับที่แวะเยี่ยมชม


ขอขอบคุณข้อมูลจาก บอร์ด วิศวะ  www.BoardEngineer.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น